การประเมินการอาจารย์ผู้สอนวิชานี้

การประเมินการอาจารย์ผู้สอนวิชานี้

ให้นักศึกษาเขียนประเมินอาจารย์ผู้สอนในประเด็นดังนี้

1.ความรู้ที่ได้จากการเรียนวิชานี้
ตอบ 1.การเรียนรู้ด้วยวิธีการเรียนรู้ใหม่ๆ โดยผ่านทางบล็อก
        2.การคิดอย่างเป็นระบบ
        3.การเปลี่ยนมุมมองทางด้านความคิด
        4.รู้จักวิวัฒนาการของการศึกษาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
        5.ได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของครูมากขึ้น


2.การนำเทคโนโลยีบล็อกมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนนักศึกษาเห็นว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
ตอบ ข้อดี  ทำให้เราได้เรียนรู้ศึกษาได้ตลอดทุกที่ทุกเวลาไม่จำเป็นต้องศึกษาเฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น และรู้จักนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์
         ข้อเสีย ในบางเวลาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอาจไม่พร้อมต่อการดำเนินงาน

3.บอกความรู้สึกต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เว็บบล็อก
ตอบ รู้สึกว่าเป็นการเรียนการสอนที่ทันสมัย ใช้สื่อทางเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ในการเรียนการสอน

4.ถ้าประเมินอาจารย์ผู้สอนวิชานี้ เกรด A,B,C จะให้ระดับใด เหตุผล
ตอบ B เพราะ อาจารย์เป็นคนที่มีความตรงต่อเวลาและมีความขยันเป็นอย่างมาก ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการประกอบอาชีพ

ครูดีในดวงใจ



อาจารย์ณรงค์ บัวเพชร์
โรงเรียนทุ่งใหญ่วิทยาคม
สพม. เขต ๑๒

อาจารย์ณรงค์ บัวเพชร์ เลขประจำตัวประชาชน 3801300866851

วันเกิด 1 เมษายน พ.ศ . 2515 อายุ 43 ปี ศาสนาพุทธ

ที่อยู่ปัจจุบัน ม.2 ตำบลท่ายาง อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช รหัสไปรษณีย์ 80240 

จบจากมหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ วิชาเอกการบริหารการศึกษา จบการศึกษาปี 1994

โทรศัพท์ 09-10131726  facebook : Narong Buaphet

ตำแหน่งหน้าที่ปัจจุบัน ครูสอน(ฟิสิกส์)และหัวหน้ากลุ่มสาระวิทยาศาสร์

ปัจจุบันสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 4 และ 6 สถานศึกษาโรงเรียนทุ่งใหญ่วิทยาคม

ปรัชญาของการเป็นครู
    “งานคือหน้าที่ ความดีคือ ผลพลอยได้”

ทำไมอยากเป็นครู
     ครูเป็นอะไรที่มากกว่าการสอนคือ สร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก พัฒนา และดึงศักยภาพในตัวเด็กออกมามันไม่ใช่แค่งาน แต่เหมือนเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับสังคม และตัวเด็ก (เป็นคำพูดของอาจารย์ครู) จึงทำให้ผมตัดสินใจเรียนครู

หลักในการปฏิบัตงาน

     ท่านมีความเชื่อที่ว่างานสอนผู้เรียนคือการให้ ซึ่งเป็นบุญหรือกรรมดีที่ปฏิบัติ แล้วทำให้เกิดความสุขทางใจ โดยเฉพาะการให้ความรู้ควบคู่คุณธรรม และมีแนวคิดว่าผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้ที่ดีได้นั้น ประการแรกผู้เรียนต้องมีทัศนคติที่ดีต่อครูผู้สอนและต่อวิชาเรียนซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นของผู้เรียน

วิธีการสอนนักเรียน

     มีการจัดการเรียนการสอนโดยเน้น การทำโครงงานวิทยาศาสตร์จะช่วยให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ปัญหา เพิ่มทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม ผู้เรียนได้ลงมือคิดและปฏิบัติงานจริง ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนตระหนักถึงความสำคัญและเห็นประโยชน์ของการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น 

ความรู้สึกต่อการเป็นครูมากว่า 20 ปี

     มีความรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ได้สอนลูกศิษย์ให้มีความรู้  และมีความสุขที่ได้เห็นลูกศิษย์ประสบความสำเร็จในชีวิต

เป้าหมายสูงสุดของการสอน

      การให้ความรู้ควบคู่คุณธรรม ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเป็นคนดีและเก่ง มีปัญญาที่สมบูรณ์

ตัวอย่างผลงาน

โครงงานสิ่งประดิษฐ์รุ่นเยาว์ ในงาน AYIE 2015 Asian Young Inventors Exhibition ณ ประเทศมาเลเซีย ระหว่าง วันที่ 21 - 24 พ.ค. 2558 และได้รับรางวัลเหรียญเงินประเภทเครื่องจักรและอุปกรณ์ และยังได้รับรางวัลสเปเชี่ยล อะวอร์ด จากประเทศฮ่องกง

ทดสอบกลางภาคเรียน


1.การศึกษาไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ มีวัดเป็นแหล่งให้ความรู้ มีพระภิกษุเป็นผู้สอน จะไม่มีการจดบันทึกไว้ แต่จะใช้ความสามารถในการท่องจำ และเล่าเรียนเพื่อประกอบอาชีพ

2.สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาจัดการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ การศึกษาในสมัยกรุงสุโขทัย เป็นการศึกษาและเรียนรู้ในครอบครัวจากพ่อแม่และเครือญาติเกี่ยวกับวิชาชีพโดยมีพระสงฆ์เป็นผู้สั่งสอนอบรม ด้านความประพฤติ และ มีวัดเป็นศูนย์กลาง การศึกษาอบรม ส่วนการศึกษาของกรุงศรีอยุธยามีการเรียนภาษาต่างประเทศ ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต ภาษาพม่า ภาษาเขมร ภาษาจีน ภาษาฝรั่งเศส และมีโรงเรียนบาทหลวง สอนศาสนาได้อย่างเสรี โดยวิธีการเรียนจะใช้วิธีท่องจำ นักเรียนส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ส่วนนักเรียนหญิงจะเรียนการบ้านการเรือน และอยู่ในราชสำนัก

3.อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการจัดการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ มีการสอนวิธีรบแบบชาติตะวันตก สอนการต่อเรือ นำตำหรับยามาเผยแพร่ สอนวิชาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส การก่อสร้าง

4.การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ ในสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์เน้นการทำนุบำรุงตำราทางศาสนา ศิลปะและวรรณคดี ซึ่งมีการฟื้นฟูการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ วรรณคดี ส่งเสริมการศึกษาทั้งวิชาสามัญ โหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ จริยศาสตร์ มีการตั้งโรงทานหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวังเป็นที่ให้การศึกษา และมีการจารึกวิชาความรู้สามัญและวิชาชีพลงในแผ่นศิลาประดับไว้ตามระเบียงวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

5.แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่ออะไร เกิดขึ้นในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ หนังสือเรียนเล่มแรกของไทย คือ “จินดามณี”  เกิดในรัชสมัยพระนารายณ์มหาราช เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 27แห่งสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นหนังสือแบบเรียนที่ ดร . แดน บีช บรัดเล มิชชันนารีชาวอเมริกันผู้ที่มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงเทคนิคการพิมพ์ของไทย จัดพิมพ์เมื่อปี 2422 โดยคัดสรรมาจากตำราเรียนเก่าหลายเรื่องและสอดแทรกเนื้อหาสำคัญที่เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยมาไว้ในเล่มเดียวกัน

6.การจัดการศึกษาภาคบังคับมีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย และให้เหตุผล
ตอบ เป็นการศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่เก้าของการศึกษา ขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ เป็นการบังคับให้เข้าเรียนถือเป็นหน้าที่ของพลเมือง

7.การศึกษาที่เรียกว่ามาติกาศึกษาเป็นอย่างไร จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ การศึกษาที่มีองค์ประกอบในการศึกษาที่พร้อม ครบถ้วน ซึ่งมาติกาการศึกษามีอยู่ด้วยกัน 8 มาติกา คือ 1) ตำบลที่เล่าเรียน ในอดีตคือ ที่ตั้งของวัด และในปัจจุบันคือ ที่ตั้งของโรงเรียน
      2) โรงเรียน ในอดีตคือ ที่เรียนในวัด
      3) นักเรียนและครู ในอดีตมี 3 ประเภท คือ พรภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
      4) เวลาเรียน ในอดีตคือ ตอนพระว่าง และในปัจจุบันคือ เวลา 08.00-16.00 น.
      5) เครื่องเล่าเรียน ในอดีตคือ กระดานฉนวน ดินสอพอ ปากกาไม้ไผ่ เป็นต้น และในปัจจุบันคือ
          ปากกา ดินสอ กระดาษ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
      6) วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ
      7) วิชาเลข คือ เลขคณิตวิธีต่างๆ
      8) ข้อบังคับการเรียน คือ ระเบียบวินัยในการเรียน การชมเชย และการลงโทษ

8.การศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากประเทศนั้นต้องการหาคนที่มีความรู้ ความสามารถเข้ารับราชการ เพราะต้องการพัฒนาประเทศและการศึกษาให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

9.การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ เห็นด้วย เพราะ เนื่องจากกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมยุคโลกาภิวัตน์ การศึกษายุคใหม่จะต้องพัฒนาคนให้มีความสามารถใช้ข้อมูลข่าวสารเป็น โดยสามารถนำมาพัฒนาเป็นกระบวนการเรียนรู้ของตนเองได้ การศึกษาจะต้องมีเป้าหมายหลักในการสร้างบุคคลแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาและยกระดับการศึกษาของประเทศให้เข้าสู่การแข่งขันกับนานาชาติได้

10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาสู่ยุคสมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ การสร้างประชาคมอาเซียนด้วยการศึกษา โดยมีการเตรียมความพร้อมในด้านกรอบความคิด คือ แผนการศึกษาแห่งชาติ ที่จะมุ่งสร้างความตระหนักรู้ของคนไทยในการจัดการศึกษาเพื่อสร้างคนไทยให้ เป็นคนของประชาคมอาเซียน พัฒนาสมรรถนะให้พร้อมจะอยู่ร่วมกันและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการศึกษา โดยให้มีการร่วมมือกันใน ๓ ด้านคือ ด้านพัฒนาคุณภาพการศึกษา การขยายโอกาสทางการศึกษา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบริการและจัดการศึกษา

วีดีโอการศึกษา

1. ชื่อเรื่อง  ผมเกลียดโรงเรียน
ข้อสรุปประเด็นที่ได้ การศึกษา คือ กุญแจไขปัญหาต่างๆ ถ้าโรงเรียนเปรียบเสมือนล็อคเกอร์ การศึกษาก็เปรียบเสมือนกุญแจ คือ บุคคลที่ประสบความสำเร็จล้วนเป็นผู้ที่มีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา การศึกษาไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ในห้องเรียน การศึกษาคือการจุดประกายความคิด ไม่ใช่แค่ยัดเยียดอะไรลงไปในสมอง การศึกษาไม่ใช่แค่ท่องจำข้อมูลในตำราเพียงอย่างเดียว
ข้อคิดที่ได้  การเรียนรู้ไม่ได้จำเป็นต้องศึกษาเฉพาะในห้องเรียน แต่เราสามารถเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้จากสิ่งรอบตัวของเราเอง

2. ชื่อเรื่อง สตีฟ จ็อบส์
ข้อสรุปประเด็นที่ได้  ต้องกล้าที่จะตัดสินใจในสิ่งที่จะทำ และเชื่อมั่นในตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของชีวิต และหากรักในสิ่งที่ทำจงอย่าสูญสิ้นศรัทธา อย่าหยุดนิ่ง บางครั้งจุดที่คุณคิดว่าล้มเหลวอาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ และถ้าคุณใช้ชีวิตในแต่ละวันให้เหมือนว่ามันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต สักวันหนึ่งคุณจะได้เป็นในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแน่นอน
ข้อคิดที่ได้  การกล้าที่จะตัดสินใจในสิ่งที่ตนเองทำ  โดยการเปลี่ยนมุมมองการคิดแบบใหม่ๆ

3. ชื่อเรื่อง บิล เกตต์
ข้อสรุปประเด็นที่ได้       ข้อที่1 ชีวิตของคนเรานั้นไม่เท่าเทียมเท่าไร

                                      ข้อที่2 ความสำเร็จที่เกิดจากตัวคุณเอง
                                      ข้อที่3 อย่าหวังว่าเรียนจบแล้วจะได้ทำงานเงินเดือนเยอะ
                                      ข้อที่4 การทำงานน่าเบื่อสุด
                                      ข้อที่5 การคิดคำสแลงใหม่ไม่ใช่ความผิด
                                      ข้อที่6 จงเรียนรู้ความผิดพลาด
                                      ข้อที่7 จงช่วยกันแบ่งเบาภาระแก่ครอบครัว
                                      ข้อที่8 ชีวิตเป็นการลองผิดหรือลองถูก
                                      ข้อที่9 ไม่มีวันหยุดให้เหมือนเรียนหนังสือ
                                      ข้อที่10 จงเชื่อสิ่งที่เป็นจริง
                                      ข้อที่11 มีมิตรภาพกับความเนิร์ด
ข้อคิดที่ได้   เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอไม่ยึดติดกับความเชื่อ แต่จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

4. ชื่อเรื่อง อิชิตัน
ข้อสรุปประเด็นที่ได้ การทำธุรกิจต้องมีความรู้เรื่องธุรกิจแล้วก็ทำจากจุดที่ง่ายสุดและเมื่อเกิดอุปสรรค์ ก็จะทำให้เรามีความพยายามยิ่งขึ้นและเราต้องใส่ใจรายละเอียดกับสิ่งที่ทำ เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ข้อคิดที่ได้  ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเราพยายาม และมีความสุขในการทำสิ่งที่เรารัก

ดาวเด่นของการศึกษา

ดาวเด่นของการศึกษา

1. ชื่อเรื่อง  สัมภาษณ์ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ การเตรียมพร้อมเข้าสู่ AEC
องค์ความรู้ที่ได้ 
ประเทศไทยมีตั้งยุทธศาสตร์เหมาะแก่การลงทุน และการกระจายสินค้า โดยประเทศไทยมีเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 2 และมีความหลากหลาย แต่ต้องอาศัยความพร้อม การเตรียมตัว และทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทยควรปฏิรูปการศึกษา วิทยาศาสตร์และทรัพยากรมนุษย์และควรคัดสรรคนมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองกับข้าราชการให้ประสิทธิภาพ
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การเตรียมพร้อมในการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารก่อนเปิดAEC อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อคิดที่ได้
จะพัฒนาสิ่งใดควรทำแต่เนิ่นๆอย่างปล่อยให้มันหลุดมือไปเสียก่อน

2. ชื่อเรื่อง  ประเทศไหนๆก็เร่งพัฒนาคน
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศอื่นๆพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่อง เช่น ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีทรัพยากรมนุษย์ที่ดีของโลก เพราะชาวสิงคโปร์เป็นนักคิด นักลงทุน และผู้บริหารที่ดี
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การกล้าแสดงออกที่จะแสดงความคิดเห็น
ข้อคิดที่ได้
การที่จะพัฒนาคนได้นั้นต้องใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อย

3. ชื่อเรื่อง  ดาวเด่นการศึกษาแห่งอาเซียน
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศสิงคโปร์ได้ยอมรับว่ามีการศึกษาที่ดีที่สุด มาจากการที่รัฐบาล
อุดหนุนการศึกษาเสมือนการศึกษาแบบให้เปล่า และการเรียนการสอนไม่ได้เน้นวิชาการเท่านั้นแต่เน้นคุณธรรมคู่กับศิลปะ
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ควรเป็นคนเก่ง ที่มีคุณธรรม เพื่อพัฒนาประเทศต่อไป
ข้อคิดที่ได้
การเรียนไม่ใช่ทุกอย่างแต่ที่สำคัญที่สุด คือ การเรียนรู้

4. ชื่อเรื่อง  ปฏิรูปการศึกษา เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์
องค์ความรู้ที่ได้
เวียดนาม มีการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจจากเกษตรกรรมมาเป็นอุตสาหกรรม ทำให้ประเทศมีความต้องการทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น การศึกษาประเทศเวียดนามมีความเชื่อพื้นฐานแลบะวัฒนธรรมว่า
ควรจะเรียนต่อในระดับปริญญา
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การเรียนรู้ในสิ่งที่ชอบ และตนเองถนัด
ข้อคิดที่ได้
การเรียนในระดับปริญญาควรมาจากความชอบและความถนัด

5. ชื่อเรื่อง  ประเทศไทยอยู่ตรงไหนก็อาเซียน
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ลำดับที่ 4ในอาเซียนและ
อันดับที่ 37 จาก148 ประเทศขีดจำกัดความสามารถของไทยยังสูงกว่าอาเซียนเล็กน้อย
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ศึกษาค้นหาความรู้เพิ่มขึ้น โดยเริ่มจากสิ่งที่ชอบ
ข้อคิดที่ได้
รู้ว่าการศึกษาไทยอยู่ลำดับที่เท่าไหรของอาเซียน ซึ่งไทยยังสูงกว่าอาเซียนเล็กน้อย ดังนั้นควรที่จะพัฒนาการศึกษาให้ก้าวหน้าต่อไป โดยเริ่มจากตนเอง

6. ชื่อเรื่อง  สายสัมพันธ์ไทย - ลาว
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศไทยกับลาวเป็นเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน โดยมีแม่น้ำเป็นเส้นทางหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนกิจกรรมที่นิยมทำของ นักท่องเที่ยวที่หลวงพระปางคือ การตักบาตรข้าวเหนือทุกเช้า เป็นวิถีชีวิตของชาวพุทธในลาว
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
จะอนุรักษ์วัฒนธรรมที่ดีแบบนี้ โดยการปฎิบัติเมื่อมีโอกาสทุกครั้ง
ข้อคิดที่ได้
ไม่ว่าเป็นคนชาติไหนๆก็สามารถเป็นพี่น้องได้เหมือนกัน และได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนทั้งสองประเทศ

7. ชื่อเรื่อง  เยือนถิ่นอิเหนา
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่ครอบครองทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมาก ไปทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศประเทศนี้จึงเป็นที่น่าสนใจสำคัญนักธุรกิจ ทำให้อุตสาหกรรมอาหารเจริญอย่างมาของชาวมุสลิม
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ได้นำความรู้เรื่องนโยบายมาใช้ในการจัดชีวิตประจำวันให้ดีขึ้น
ข้อคิดที่ได้
ประเทศจะเจริญได้ควรมีรัฐบาล และนโยบายที่ดี

8.ชื่อเรื่อง  เที่ยวฟิลิปปินส์
องค์ความรู้ที่ได้
ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศเกาะที่มีความโดดเด่นทางความสวยงามของธรรมชาติ ประเทศนี้จึงเป็นศูนย์กลางราชการ เศรษฐกิจ และการขนส่งทางอากาศและทางทะเลที่มีความสำคัญของภูมิภาคนี้
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ได้เรียนรู้ความโดดเด่นของประเทศในอาเซียน
ข้อคิดที่ได้
นำข้อบกพร่องมาพัฒนากับประเทศตนเองให้มากที่สุด

9. ชื่อเรื่อง  เวียดนามเปิด เศรษฐกิจเกิด
องค์ความรู้ที่ได้
เวียดนามได้ปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาวะการเมืองที่มั่นคง ส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวอย่างรวดเร็วมีการเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจที่ใช้กลไกตลาด การขยายตัวภาคอุตสาหกรรมสูงขึ้นและมีศักยภาพส่งออกด้านน้ำมัน
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การปรับเปลี่ยนทางทัศนคติ
ข้อคิดที่ได้
ควรเปิดโอกาสการเรียนรู้ทางความคิดให้มากกว่าเนื้อหาในตำรา

10. ชื่อเรื่อง  จับมือกันพัฒนาทั้งไทย-พม่า ได้ร่วมกัน
องค์ความรู้ที่ได้
การทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างไทยกับพม่า เป็นความตกลงเพื่อให้ทั้งสองประเทศนั้นมีเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ดีและ พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การร่วมมือ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ข้อคิดที่ได้
การร่วมมือทำให้ได้สิ่งที่ต้องการงานขึ้นและเกิดผลงานที่มีประสิทธิภาพ

11. ชื่อเรื่อง  ไทย-กัมพูชา ร่วมมือกัน
องค์ความรู้ที่ได้
การจัดระบบและระเบียบทางการค้าและความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณสุขในลักษณะเป็นสากล และการเชื่อมเส้นทางคมนาคมมุกดาหาร-สุวรรณาเขต-ดองฮา-ดานัง และเส้นทาง กรุงเทพ –พนมเปญ-โฮจิมินทร์ซิตี้-วังเตา เพื่อความสะดวกของประชาชนทั้งสองประเทศ
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การร่วมมือ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ข้อคิดที่ได้
การพัฒนาทำให้ทุกประเทศจะเจริญก้าวหน้า

"การศึกษาโลก"

การศึกษาโลก

การศึกษาในประชาคมอาเซียน

1.ชื่อเรื่อง  คุยกับดำรง มาตรฐานการศึกษาไทย
ข้อสรุปประเด็นที่ได้ ผลการจัดอันดับของ "World Economic Forum- 2013-2014" ประเทศไทยได้อันดับที่8 โดยมีประเทศสิงคโปร์เป็นอันดับที่ 1 โดยของสิงคโปร์นั้นจะเน้นงบประมาณการศึกษาเป็นอันดับที่1 แต่ประเทศของเรานั้นจะนำงบประมาณของประเทศไปทำประโยชน์อย่างอื่นเสียส่วนใหญ่ และมีการจัดการศึกษาไม่ทัดเทียมกันทั้งประเทศ ดีเฉพาะส่วนกลาง และมหาวิทยาลัยไม่ร่างตามหลักสูตรตามที่สอน
ข้อคิดที่ได้ รัฐบาลไทยควรเน้นจัดประมาณการศึกษาให้มาก เพื่อเด็กไทยทุกคนได้เรียนหนังสืออย่างมีคุณภาพอย่างจริงจังและอย่างแท้จริง

2.ชื่อเรื่อง การขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู่ประชาคมอาเซียน
ข้อสรุปประเด็นที่ได้อาเซียนจัดตั้งเพื่อหันหน้าเข้าหากัน ยับยั้งการทำลาย ยับยั้งวิกฤตของโลก เพื่อเราจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เข้าอกเข้าใจกัน ส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางสังคมและวัฒนธรรม อยู่กันอย่างสันติภาพ และมีความมั่นคงของภูมิภาค จนกลายเป็นองค์กรอาเซียนขึ้นทำให้คนไทยต้องเตรียมตัวเองเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างแท้จริง คือ การปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมองภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางของ AEC และ ความเป็นเลิศทางวิชาการเท่านั้นที่จะเป็นหลักประกันและช่วยให้อยู่รอด
ข้อคิดที่ได้ เราควรจะเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่อาเซียนให้ แม้มันจะระยะสั้นๆ แต่มันก็ไม่สายเกินไปที่เราจะปรับตัวใหม่ให้เข้ากับประชาคมอาเซียน

3.ชื่อเรื่อง การศึกษาไทยในประชาคมอาเซียน ตอนที่ 1
ข้อสรุปประเด็นที่ได้ การเตรียมความพร้อมของรัฐบาลในเชิง นั้นคือ กระทรวงศึกษาธิการได้รองรับการเตรียมความพร้อมของอุดมศึกษาไทยในการก้าวเข้าสู่ประชาคม ซึ่งควรมีนโยบายในการปรับตัวและการเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ข้อคิดที่ได้ ขั้นตอนแรกสำหรับนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา คือต้องเตรียมความพร้อมอย่างมีคุณภาพเพื่อที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

4.ชื่อเรื่อง  การศึกษาไทยในประชาคมอาเซียน ตอนที่ 2
ข้อสรุปประเด็นที่ได้ ปัญหาภายในของประเทศไทยที่เปลี่ยนนโยบาย ไม่มีความต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีเวลาเตรียมตัวเพื่อได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งที่ฐานอื่นดีกว่าคนอื่นและประเทศไทยควรสร้างความตระหนักรู้ของคนไทยในการจัดการศึกษาเพื่อสร้างคนไทยให้ เป็นคนของประชาคมอาเซียน
ข้อคิดที่ได้ การปรับปรุงการศึกษาของไทยให้มีคุณภาพมากกว่านี้ และพัฒนาคุณภาพคนมากกว่าเรียนไปเพื่อจำ

5.ชื่อเรื่อง  การศึกษาในประเทศสิงคโปร์
ข้อสรุปประเด็นที่ได้ การพัฒนาการศึกษาของคนในชาติสิงคโปร์สร้างความสำคัญเป็นอย่างมากต่อระบบการศึกษาของสิงคโปร์ซึ่งคงเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก การศึกษาของสิงคโปร์นั้นมุ่งเน้นผลลัพธ์ทางการศึกษา เน้นจิตสำนึก มีการบริหารจัดการแบบส่วนรวมและหลักสูตรการเรียนการสอนเข้มข้น
ข้อคิดที่ได้  ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการการวางแผนปรับปรุงการศึกษาเสมอ เราจะสามารถนำมาพัฒนาแก่ประเทศไทยได้เช่นกัน ถ้าหากประเทศไทยรู้จักวางแผนการศึกษาของนักศึกษาไทยอย่างดีพอ

6.ชื่อเรื่อง   การศึกษาในประเทศเวียดนาม
ข้อสรุปประเด็นที่ได้  การศึกษาของเวียดนาม ไม่ได้นั้นเน้นเฉพาะภาษาอังกฤษ มีหลักสูตรภาษาฝรั่งเศสและภาษาอื่นๆการศึกษาของเวียดนามนั้นจะเน้นแบบท่องจำให้เก่ง เพื่อไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยแต่พอจบมาคนเหล่านี้จะทำให้เกิดปัญหาประชาชนว่างงานล้นประเทศเวียดนาม ทำให้ประเทศเวียดนามจึงเร่งการแก้ไขปัญหาการศึกษาสำหรับตอนนี้การศึกษาในเวียดนาม
ข้อคิดที่ได้  สำหรับประเทศไทยก็เหมือนกับประเทศเวียดนาม คืออ่านเพื่อจำแต่ไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์ และ รัฐบาลไทยควรที่จะมีการแก้ไขปัญหาแก่การศึกษาไทย เพื่อจะไม่ประสบปัญหากับการว่างงานเหมือนประเทศเวียดนาม

7. ชื่อเรื่อง  การศึกษาในประเทศลาว
ข้อสรุปประเด็นที่ได้  ประเทศลาวมีปัจจัยพื้นฐานแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นประเทศอุตสาหกรรมและความทันสมัย แต่ต้องยึดการศึกษาเป็นหัวใจหลักสำหรับการพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ในประเทศลาว การศึกษาที่นี้จะแข่งขันกันไม่ดุเดือด จะเน้นผลิตนักเรียนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน
ข้อคิดที่ได้  มีการศึกษาเป็นหัวใจและปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนาชีวิตของคนในประเทศและความเจริญของประเทศ

8.ชื่อเรื่อง การศึกษาในประเทศมาเลเซีย
ข้อสรุปประเด็นที่ได้  รัฐบาลของประเทศมาเลเซียต้องการพัฒนามาเลเซียให้เป็นศูนย์กลางของความเป็นเลิศทางด้านการศึกษาในภูมิภาคนี้โดยมีการวางแผนพัฒนายุทธศาสตร์ด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างสมดุลความรู้ภาษาอังกฤษกับความรู้สมัยใหม่ ให้เข้ากับหลักคำสอนของศาสนาอิสลามและเน้นทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะคิดว่าจะช่วยสร้างกระบวนการคิดและพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น
ข้อคิดที่ได้  ประเทศมาเลเซียมีความพยายามที่พัฒนาประเทศตนเองให้เป็นเลิศทางวิชาใน AEC

9.ชื่อเรื่อง  การศึกษาในประเทศอินโดนีเซีย
ข้อสรุปประเด็นที่ได้  การศึกษาในประเทศอินโดนีเซียไม่มีแผนการเรื่องการแข่งขันกับนานาชาติ แต่ให้น้ำหนักไปที่การศึกษาในเชิงศาสนาอิสลามและจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งทางด้านการศึกษาของอินโดนีเซียก็คือ การเน้นการศึกษาวิชาชีพให้กับผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา
ข้อคิดที่ได้  มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาภาษาอาหรับซึ่งเป็นภาษาในศาสนาอิสลามมากกว่าภาษาอังกฤษ

10.ชื่อเรื่อง  การศึกษาในประเทศฟิลิปปินส์
ข้อสรุปประเด็นที่ได้  มีหลักสูตรการศึกษาอันทันสมัยเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาและการศึกษาในรูปแบบอเมริกา มีส่วนช่วยให้เกิดการตื่นตัวทางสังคมและเกิดปัญญาชนในประเทศฟิลิปปินส์ และมีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่สอนตัวต่อตัว ที่ขึ้นชื่อหลายแห่งมาก ทำให้มีชาวต่างชาติมาเรียนกันมากมาย ทำให้เกิดการสร้างงานและการท่องเที่ยวเข้าประเทศฟิลิปปินส์
ข้อคิดที่ได้  เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารที่สุดและภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในอาเซียน

11.ชื่อเรื่อง  การศึกษาในประเทศบรูไน
ข้อสรุปประเด็นที่ได้  ไม่มีการศึกษาภาคบังคับ แต่รัฐให้การศึกษาแก่ประชาชนเพื่อมุ่งพัฒนาให้มีความสามารถด้านสติปัญญาและมีความสุข และให้เรียนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย บรูไนใช้ทั้งภาษามลายูและภาษาอังกฤษสอนเด็กตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้ภาษามลายูสอนวิชาความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม พลศึกษา ศิลปะ ส่วนภาษาอังกฤษใช้สอนวิชาหลัก วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
ข้อคิดที่ได้  เป็นประเทศที่ทำให้ผู้เรียนรู้สึกมีความอิสระต่อการเรียนและทำให้มีความสุขสำหรับการเรียน

บทที่ 3 วิวัฒนาการของการศึกษาไทย

แบบฝึกหัด

1.แนวคิดทางการศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ มีวัดเป็นแหล่งให้ความรู้ มีพระภิกษุเป็นผู้สอน จะไม่มีการจดบันทึกไว้ แต่จะใช้ความสามารถในการท่องจำ และเล่าเรียนเพื่อประกอบอาชีพ

2. สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา การจัดการศึกษาเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ ในสมัยกรุงสุโขทัยรัฐและวัด รวมกันเป็นศูนย์กลางแห่งประชาคม กิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐและวัดย่อมเป็นการสอนประชาคมไปในตัววิชาที่เรียนคือภาษาบาลี ภาษาไทยและวิชาสามัญขั้นต้น ส่วน ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีลักษณะการศึกษาสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นไปในทางติดต่อกับประชาคมเท่านั้น เพราะการศึกษาทั่วไปก็ตกอยู่แก่วัด ราษฎรนิยม พาลูกหลานไปฝากพระ เพื่อเล่าเรียนหนังสือ

3. อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ มีการสอนวิธีรบแบบชาติตะวันตก สอนการต่อเรือ นำตำหรับยามาเผยแพร่ สอนวิชาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส การก่อสร้าง

4. การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ ในสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์เน้นการทำนุบำรุงตำราทางศาสนา ศิลปะและวรรณคดี
ซึ่งมีการฟื้นฟูการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ วรรณคดี ส่งเสริมการศึกษาทั้งวิชาสามัญ โหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ จริยศาสตร์ มีการตั้งโรงทานหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวังเป็นที่ให้การศึกษา และมีการจารึกวิชาความรู้สามัญและวิชาชีพลงในแผ่นศิลาประดับไว้ตามระเบียงวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

5. แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ เกิดในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ แบบเรียนเล่มแรกของไทย คือ “จินดามณี” เกิดขึ้นในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีที่มาจากการที่ ฝรั่งเศสได้มาติดต่อค้าขาย เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ ประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรก และสอนวิชาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส ต่อเรือ การก่อสร้าง พระองค์เกรงว่าคน ไทยจะหันไปเข้ารีตและนิยมฝรั่ง ทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดี แตงหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็น ของตนเอง

6. การจัดการศึกษาภาคบังคับ มีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ การศึกษาภาคบังคับเป็นการบังคับให้เข้าเรียนถือเป็นหน้าที่ของพลเมือง

7. การจัดการศึกษาที่เรียกว่า มาติกาศึกษา เป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ การศึกษาที่มีองค์ประกอบในการศึกษาที่พร้อม ครบถ้วน ซึ่งมาติกาการศึกษามีอยู่ด้วยกัน 8 มาติกา คือ1) ตำบลที่เล่าเรียน ในอดีตคือ ที่ตั้งของวัด และในปัจจุบันคือ ที่ตั้งของโรงเรียน
     2) โรงเรียน ในอดีตคือ ที่เรียนในวัด
     3) นักเรียนและครู ในอดีตมี 3 ประเภท คือ พรภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
     4) เวลาเรียน ในอดีตคือ ตอนพระว่าง และในปัจจุบันคือ เวลา 08.00-16.00 น.
     5) เครื่องเล่าเรียน ในอดีตคือ กระดานฉนวน ดินสอพอ ปากกาไม้ไผ่ เป็นต้น และในปัจจุบันคือ 

          ปากกา ดินสอ กระดาษ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
     6) วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ
     7) วิชาเลข คือ เลขคณิตวิธีต่างๆ
     8) ข้อบังคับการเรียน คือ ระเบียบวินัยในการเรียน การชมเชย และการลงโทษ

8. การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากประเทศนั้นต้องการหาคนที่มีความรู้ ความสามารถเข้ารับราชการ เพราะต้องการพัฒนาประเทศและการศึกษาให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

9. การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ เห็นด้วย เพราะ เนื่องจากกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมยุคโลกาภิวัตน์ การศึกษายุคใหม่จะต้องพัฒนาคนให้มีความสามารถใช้ข้อมูลข่าวสารเป็น โดยสามารถนำมาพัฒนาเป็นกระบวนการเรียนรู้ของตนเองได้ การศึกษาจะต้องมีเป้าหมายหลักในการสร้างบุคคลแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาและยกระดับการศึกษาของประเทศให้เข้าสู่การแข่งขันกับนานาชาติได้

10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาเข้าสู่สมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างไร
ตอบ การสร้างประชาคมอาเซียนด้วยการศึกษา โดยมีการเตรียมความพร้อมในด้านกรอบความคิด คือ แผนการศึกษาแห่งชาติ ที่จะมุ่งสร้างความตระหนักรู้ของคนไทยในการจัดการศึกษาเพื่อสร้างคนไทยให้ เป็นคนของประชาคมอาเซียน พัฒนาสมรรถนะให้พร้อมจะอยู่ร่วมกันและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้าน การศึกษา โดยให้มีการร่วมมือกันใน ๓ ด้านคือ ด้านพัฒนาคุณภาพการศึกษา การขยายโอกาสทางการศึกษา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบริการและจัดการศึกษา

“สรุปย่อปรัชญาการศึกษา”

1.ปรัชญาสารัตถนิยม ในทางการศึกษา คือ ปรัชญาที่ยึดเนื้อหา (Subject Matter) เป็นหลักสำคัญของการศึกษา และเนื้อหาที่สำคัญนั้นก็ต้องเน้นเนื้อหาที่ได้มาจากมรดกทางวัฒนธรรม ที่ควรได้รับการถ่ายทอดต่อไป
2. ปรัชญานิรันตรนิยม แบ่งแนวการศึกษาออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

-ลักษณะของปรัชญาทั่วไปที่เน้นหนักในเรื่องของเหตุผล สติปัญญา ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาโดยตรง

-ลักษณะของปรัชญาทั่วไปที่เกี่ยวพันกับศาสนาโดยตรง เป็นแนวคิดของกลุ่มศาสนานิกาย คาธอลิค ที่สัมพันธ์เรื่องศาสนาเข้ากับเหตุผล

3.ปรัชญาการศึกษาอัตถิภาวนิยม คือการส่งเสริมให้ผู้เรียนแต่ละคนรู้จักพิจารณา ตัดสินใจตามสภาพและเจตจำนงที่มีความหมายต่อการดำรงชีวิตของตนเองอย่างแท้จริงโดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีอิสระในการเลือกสรรคุณธรรมค่านิยมได้อย่างเสรี พร้อมกันนั้นก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองด้วย

4.ปรัชญาปฏิรูปนิยม เน้นการศึกษาเพื่อสังคมเป็นสำคัญ คือผู้เรียนไม่ได้มุ่งพัฒนาตนเองอย่างเดียว แต่เพื่อนำความรู้พัฒนาสังคมให้ดีขึ้น

5.พุทธปรัชญา หมายถึง ความรู้อันประเสริฐที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้วหรือพุทธธรรม โดยการศึกษาในพุทธปรัชญา คือการศึกษาเพื่อให้เข้าใจความจริง เข้าใจความหมายของชีวิต ทั้งดำรงชีวิตให้สอดคล้องสัมพันธ์กับความจริง การศึกษาเพื่อให้เข้าใจความจริง เข้าใจความหมายของชีวิต ทั้งดำรงชีวิตให้สอดคล้องสัมพันธ์กับความจริง

6. ปรัชญาการศึกษาพิพัฒนาการนิยม พิพัฒนาการนิยมเชื่อว่าการศึกษาคือชีวิตไม่ใช่เป็นการเตรียมตัวเพื่อชีวิต หมายความว่า การที่จะให้ได้มาซึ่งความรู้ก็โดยการลงมือกระทำ จริง ๆ ที่จะก่อให้เกิดประสบการณ์กับผู้เรียน กิจกรรมการเรียนการสอนจึงมุ่งการพัฒนาทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาไปพร้อม ๆ กัน สามารถปรับตัวให้อยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข

“สรุปย่อการศึกษาไทย”

วิวัฒนาการศึกษาไทย

ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ ยังไม่มีโรงเรียนแก่เด็กไทยในสมัยนั้นสามารถหาความรู้ได้จากที่บ้าน สำนักสงฆ์ วิชาที่สอนไม่ได้ตายตัว มีความรู้สามัญเพื่ออ่านออกเขียนได้ วิชาชีพ วิชา จริยศึกษา และศิลปะป้องกันตัว
ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย สำหรับสถานศึกษาในสมัยนี้ ประกอบด้วย
 - บ้าน ที่ช่วยทำหน้าที่ในการถ่ายทอดความรู้ด้านอาชีพตามบรรพบุรุษ

 -สำนักสงฆ์ เพื่อหน้าที่ขัดเกลาจิตใจ และแสวงหาธรรมะต่างๆ
 -สำนักราชบัณฑิต
 -พระราชสำนัก
ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา  สถานศึกษา ในสมัยกรุงศรีอยุธยานี้ยังคงเหมือนกับสมัยสุโขทัยที่ต่างออกไป คือ มีโรงเรียนมิชชันนารี เป็นโรงเรียนที่ชาวตะวันตกได้เข้ามาสร้างเพื่อเผยแพร่ศาสนาและขณะ เดียวกันก็สอนวิชาสามัญด้วย
ประวัติศาสตร์สมัยธนบุรี เป็นระยะเก็บรวบรวมสรรพตำราจากแหล่งต่าง ๆ ที่รอดพ้นจากการทำลายของพม่า เน้นการทำนุบำรุงตำราทางศาสนา ศิลปะและวรรณคดี
ประวัติศาสตร์สมัยรัตนโกสินทร์ มีการจารึกวิชาความรู้สามัญและวิชาชีพลงในแผ่นศิลาประดับไว้ตามระเบียงวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
การศึกษาในสมัยนี้มีการนำเอาการศึกษาทางตะวันตกเข้ามาในไทย และมีการเลิกทาสจึงทำให้เกิดการศึกษาที่เท่าเทียมกัน และปัจจุบันการศึกษามีความสำคัญมาก และมีติวเตอร์เพื่อให้การเรียนการสอน

การพัฒนาการศึกษาของประเทศไทยในสมัยก่อนการศึกษาจะอยู่ตามบ้าน วัดและวัง ในบ้านจะเกี่ยวกับการเรียนรู้ทางด้านวิชาชีพ ในวัดจะเน้นการศึกษาจริยธรรมและในวัง มีการศึกษาที่สูง แต่จะจำกัดเฉพาะราชวงศ์และข้าราชการ ในสมัยพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจัดให้มีการสอนภาษาอังกฤษ ในสมัยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดตั้งโรงเรียนหลวง ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ร่วมกับการศึกษาและมีการเรียนพิเศษเกิดขึ้น

เป้าหมายของการศึกษาที่ดี คือ การที่ประชาชนได้มีความรู้ ทักษะที่จะนำไปแก้ไขปัญหาและพัฒนาตนเอง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะต้องพัฒนาความฉลาด และมีด้วยการ 3 ด้าน คือ 1.ความฉลาดทางปัญญา IQ 2.ความฉลาดทางอารมณ์ EQ 3.ความฉลาดทางสังคม SQ หมายถึง สำนึกในสังคมแบบร่วมมือหรือช่วยกัน และรู้จักการทำดี แต่ปัจจุบันการศึกษาไทยขาดความร่วมมือ เน้นตำราเป็นศูนย์กลาง ขาดการฝึกให้ผู้เรียนคิด วิเคราะห์ การศึกษากลายเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจ ผู้เรียนเป็นแรงงาน โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นโรงงาน ปัจจุบันมีการแข่งขันเรียนพิเศษ ซึ่งปัญหาในปัจจุบันที่ให้คุณภาพการศึกษาต่ำมีหลายสาเหตุ เช่น ความยากจน ตั้งครรภ์ เรียนไม่ทัน เป็นต้น การปฏิรูปการศึกษาไทย ที่ผ่านมารัฐยังเป็นผู้ผูกขาด

คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่1

1. จงประมวลผลความหมายของคำว่า “การศึกษา” 5นิยาม
ตอบ 1. ยัง ยัคส์ รุสโซ (Jean Jacques Rousseau) ได้ให้ความหมายของการศึกษาไว้ว่า การศึกษาคือ การปรับปรุงคนให้เหมาะกับ โอกาสและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป หรืออาจกล่าวได้ว่า การศึกษาคือการนำความสามารถในตัวบุคคลมาใช้ให้เกิดประโยชน์
        2. ดร. สาโช บัวศรี การศึกษา หมายถึง การพัฒนาบุคคลและสังคมที่ทำให้คนได้มีการเรียนรู้ และพัฒนาขึ้นไปสู่ความเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
        3. จอห์น ดิวอี้ (John Dewey ) ชาวอเมริกัน กล่าวว่า การศึกษา คือชีวิต (Education is life) ไม่ใช่เป็นการเตรียมตัวเพื่อชีวิตในภายหน้า การศึกษา คือ ความเจริญงอกงาม(Education is growth) ทั้งในด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
        4. อริสโตเติล (Aristotle ) ชาวกรีก กล่าวว่า การศึกษา หมายถึง การอบรมคนให้เป็นพลเมืองดี และดำเนินชีวิตด้วยการทำดี
        5. ทัลคอทท์ พาร์สัน (Talcott Parson) นักสังคมวิทยา กล่าวว่า การศึกษาคือ เครื่องมือเตรียมเด็กและเยาวชนให้มีบทบาทในวงการอาชีพต่าง ๆ ของผู้ใหญ่

2. คำว่า การศึกษา คือ กระบวนการเรียนรู้ ท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไรจงอธิบาย
ตอบ เห็นด้วย เพราะ การศึกษา หมายถึง กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

3.ในฐานะที่ท่านเป็นนักศึกษาวิชาชีพครู จงให้นิยามการศึกษาตามความคิดเห็นของท่าน
ตอบ การศึกษา หมายถึง การเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวอย่างจริงจังและตั้งใจ รวมไปถึงเป็นสิ่งที่ให้ประสบการณ์ชีวิต ช่วยพัฒนามนุษย์ให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทางทั้งสติ ความรู้ และคุณภาพทางจิตใจ ตลอดจนคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้

4. ความมุ่งหมายทั่วไปและความมุ่งหมายเฉพาะเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ เหมือนกัน เพราะ เหมือนกัน เนื่องจากความมุ่งหมายเฉพาะนั้นแยกย่อยมาจากความมุ่งหมายทั่วไป

5. ความมุ่งหมายคืออะไร ความมุ่งหมายการศึกษาระดับชาติ ความมุ่งหมายการศึกษาแต่ละระดับ ความมุ่งหมายระดับหลักสูตร และความมุ่งหมายระดับหมวด และความมุ่งหมายระดับการสอน มีความสัมพันธ์หรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ ความมุ่งหมาย คือ แนวคิดหรือเจตจำนงที่บุคคลกำหนดขึ้นไว้ล่วงหน้าในการกระทำใดๆดังนั้น ความมุ่งหมายระดับชาติเป็นหลักใหญ่สูงสุด โดยสามารถแยกย่อยเป็นระดับต่างๆ ได้แก่ ความมุ่งหมายระดับการศึกษาที่มุ่งเน้นไปยังการศึกษาระดับต่างๆ ความมุ่งหมายระดับหลักสูตรเป็นระดับที่ถูกนำมาใช้ร่วมกับระดับการศึกษา ความมุ่งหมายระดับหมวดวิชาเป็นระดับที่ถูกใช้ร่วมกับระดับการศึกษาเช่นกัน แต่เน้นเฉพาะเจาะจงเป็นรายวิชา และความมุ่งหมายระดับการสอน

6. องค์ประกอบที่ใช้กำหนดความมุ่งหมายของการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ 1. ปรัชญาการศึกษา เป็นแนวทางที่กำหนดตามความมุ่งหมายและกำหนดทิศทางให้การศึกษาดำเนินการไป
        2. จิตวิทยาการศึกษา การกำหนดความมุ่งหมายของการศึกษานำไปสู่การพัฒนาผู้เรียน วิธีวัดคุณค่าเพื่อกำหนดความมุ่งหมายให้สอดคล้องกับความต้องการ
        3. การจัดการศึกษา เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมสืบสานวัฒนธรรมความมุ่งหมายของการศึกษาเพื่อให้บุคคลสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม
        4. บริบทของชุมชน รวมทั้งฐานะทางเศรษฐกิจของคนในชุมชนแหล่งวิทยากรในชุมชน ซึ่งดำเนินการเรียนรู้ โดยการนำทรัพยากรในท้องถิ่นนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
        5. ต่างประเทศมีความสัมพันธ์กัน เป็นวิธีการทำให้ทราบว่าการศึกษาของประเทศต่างๆ มีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศของ
        6. เทคโนโลยี เป็นผลทำให้การจัดการศึกษาสะดวกและเป็นไปตามที่กำหนดอย่างรวดเร็ว

7. ทำไมการจัดการศึกษาไทยสมัยต่างๆ จึงกำหนดความมุ่งหมายของการศึกษาที่จะบ่งบอกความเป็นมาของการศึกษาไทยได้หรือไม่ อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ ได้ เพราะ ต้องอาศัยบริบทของชุมชน ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพของสังคมซึ่งจากการกำหนดจุดมุ่งหมายของการศึกษาไทยในสมัยต่างๆ สามารถบอกถึงความเป็นมาและสภาพของสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้

8.ในฐานะที่ท่านเป็นนักศึกษาวิชาชีพครูท่านคิดว่าการศึกษามีความสำคัญต่อประเทศอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ การศึกษาเป็นกระบวนการที่มุ่งพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่มีคุณภาพมีความสามารถเต็มศักยภาพ มีการพัฒนาที่สมดุลทั้งสติปัญญา จิตใจ ร่างกาย และสังคม เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศการศึกษาเป็นกระบวนการถ่ายทอดและเรียนรู้ในการที่สร้างสรรค์ และพัฒนาคนทั้งในแง่ความรู้ ความคิด ตลอดจนคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

9. แนวคิดพุทธทาสภิกขุ ได้กล่าวว่า การศึกษาเพื่อมนุษย์จะมีโอกาสได้ดีที่สุด สิ่งที่มนุษย์ควรจะได้โดยการทำลายซึ่งสัญชาตญาณอย่างสัตว์แล้วมีการประพฤติกระทำอย่างมนุษย์ที่มีจิตใจสูงโดยสมบูรณ์ และสิ่งที่ดีที่สุดตามหลักพุทธศาสนาที่ว่า กินอยู่อย่างดี อย่ากินส่วนเกิน อย่าใช่ส่วนเกินเพื่อจะให้เป็นไปได้อะไร อีกอันหนึ่งซึ่งสูงสุดเรียกว่า “บรมธรรม” การศึกษาเพื่อธรรมาธิปไตยและเป็นเรื่องคนมีปัญญา ต้องมีปัญญาแท้จริงสูงสุด เห็นด้วยจริงหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ เห็นด้วย เพราะการศึกษาเป็นสิ่งที่ยกระดับจิตใจมนุษย์ ให้สูงขึ้นและยกระดับตัวของตัวเองโดยการศึกษาหาความรู้ต่างๆอยู่ตลอดเวลา เพื่อพัฒนาจิตใจ ทำให้รู้จักควบคุมสิ่งต่างๆให้อยู่ในสภาวะที่พอดี

10. แนวคิดของนักการศึกษาไทยที่ท่านชอบมากที่สุด 1 ท่าน แสดงทัศนะของท่านต่อแนวความคิดการจัดการศึกษาของไทย
ตอบ คาร์เตอร์ วี. กู๊ด (Carter V. Good) ได้ให้ความหมายไว้ 3 ความหมาย คือ
1. การศึกษาหมายถึงกระบวนการต่าง ๆ ที่บุคคลนำมาใช้ในการพัฒนาความรู้ ความสามารถ เจตคติ ความประพฤติที่ดีมีคุณค่า และมีคุณธรรมเป็นที่ยอมรับนับถือของสังคม
2. การศึกษาเป็นกระบวนการทางสังคมที่ทำให้บุคคลได้รับความรู้ความสามารถจากสิ่งแวดล้อมที่โรงเรียนจัดขึ้น
3. การศึกษาหมายถึงการถ่ายทอดความรู้ต่าง ๆ ที่รวบรวมไว้อย่างเป็นระเบียบให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษา

                                

                                          ประวัติส่วนตัว

ชื่อ : นางสาวสิรินยา หนูสมแก้ว  ชื่อเล่น : ฟิวส์ รหัสประจำตัวนักศึกษา : 5881103017

คณะ : ครุศาสตร์ สาขาวิชา : คณิตศาสตร์  มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

วันเกิด : 10 มิถุนายน 2540 กรุ๊ปเลือด : โอ  ที่อยู่ : 201/1 ม.3 ต.บางรูป อ.ทุ่งใหญ่จ.นครศรีธรรมราช

งานอดิเรก : ฟังเพลง ร้องเพลง และวาดรูป  เบอร์ติดต่อ : 061-2626385 / 098-6965289


ปรัชญาชีวิต

ทำอะไรทำให้สุด จะไม่หยุดกลางคัน จะเดินหน้าต่อไป


การศึกษา

 ชั้นประถมศึกษาปีที่1-6 : โรงเรียนวิทยานุเคราะห์
 มัธยมศึกษาปีที่1-3 : โรงเรียนวิทยานุเคราะห์
 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 : โรงเรียนทุ่งใหญ่วิทยาคม

 ปัจจุบัน: กำลังศึกษาคณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 

ทำไมจึงอยากเรียนครู?? 

อาชีพครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นอาชีพที่น่าภาคภูมิใจ และดิฉันมีอาจารย์ประจำชั้นตอนม.ปลายเป็นไอดอล นั้นจึงเป็นสาเหตุ ให้ดิฉันเรียนครู


สิ่งที่อยากทำในอนาคต

เมื่อดิฉันเรียนจบเเล้ว ดิฉันจะต้องมีงานทำ สอบบรรจุเป็นข้าราชการครูได้ เพื่อให้พ่อกับแม่ได้ภูมิใจในตัวดิฉันและสามารถเลี้ยงท่านได้เพื่อตอบแทนที่คอยเลี้ยงดูส่งเสียดิฉันมาตลอด และถ้ามีโอกาสดิฉันอยากเปิดติวเตอร์เป็นของตัวเอง 

สิ่งที่ชอบเเละไม่ชอบ

สิ่งที่ชอบ : 1.ชอบสีเขียวอ่อนและสีชมพู

                  2.ชอบทานข้าวหมกไก่ และชอบดื่มนำชามะนาว

                  3.ชอบทานเงาะ แตงโม และชมพู่
 

                  4.ชอบหมีพูห์

                  5.ชอบฟังเพลง 25 hours และปามมี่

                  6.ชอบเที่ยวทะเล และน้ำตก


สิ่งที่ไม่ชอบ : 1.ไม่ชอบแมวกับงู

                      2.ไม่ชอบทานสับปะรด

                      3.ไม่ชอบคิตตี้

                      4.ไม่ชอบการบังคับ และการโกหก